หลังจากทยอยปล่อยข่าวออกมาเป็นระยะ ตั้งแต่การจะเปลี่ยนแอพพลิเคชั่นเฟซบุ๊กที่เคยเน้นการพูดคุยกันในที่สาธารณะ มาเป็นพูดคุยสื่อสารอย่างเป็นส่วนตัวมากขึ้น ซึ่งในขณะนั้นก็ได้รับเสียงโต้แย้งจาก ผู้คนที่กำลังใช้เฟซบุ๊กเพื่อการตลาดอยู่พอสมควร ต่อมาแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียชื่อดัง ก็ประกาศว่าผู้ใช้สามารถลบประวัติส่วนตัวที่ถูกเก็บเอาไว้ด้วยตัวเองได้ โดยแจ้งกับผู้ลงโฆษณาว่าเมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้นการกำหนดกลุ่มเป้าหมายของเฟซบุ๊กอาจจะไม่แม่นยำเหมือนเดิม

นอกจากนั้นเฟซบุ๊กหันมากำจัดผู้ใช้งานปลอม(fake account)โดยตั้งทีมงานและ AI มาทำงานนี้โดยเฉพาะ โดยรายงานว่าในช่วงสามเดือนสุดท้ายของปี 2018 สามารถกำจัดผู้ใช้ปลอมไปแล้ว 3 พันล้านบัญชี ส่วนใหญ่ของบัญชีปลอมถูกสร้างโดยมิจฉาชีพเป็นช่องทางกระจายข่าวสิ่งผิดกฎหมาย การทำเช่นนี้เพื่อช่วยลบภาพพจน์ด้านลบของเฟซบุ๊ก หวังกระตุ้นให้สมาชิกเชื่อใจและเข้ามาใช้งานบ่อยครั้งขึ้น

มีคำถามเกิดขึ้นในใจของผู้ที่เป็นสมาชิกของเฟซบุ๊กจำนวน กว่า 2.38 พันล้านคนว่าการกระทำที่เหมือนกลับหลังหันอย่างนี้เกิดจากอะไรหรือ แล้วเฟซบุ๊ก ก็เริ่มเผยถึงโครงการ เงินดิจิทัลสกุลใหม่ ที่จะถูกสร้างให้เชื่อมการทำธุรกรรมทางการเงินระหว่างสมาชิกและบริษัทต่าง ๆ ที่ให้บริการในโลกไซเบอร์ โดยใช้ชื่อว่า โครงการ ลิบร้า (Libra)

ปูทางสร้างสกุลเงินขึ้นมาใช้เอง

ลิบร้า (Libra) แม้จะเป็นสกุลเงินดิจิทัล ใช้เทคโนโลยี Block chain แต่แตกต่างจากสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ ตรงที่บริษัทเฟซบุ๊กไม่ได้ดูแลค่าเงินนี้เพียงฝ่ายเดียวแต่ได้ตั้งองค์กรที่ไม่แสวงหากำไรขึ้นในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ชื่อ Libra Association มาดูแลโดยตรง คล้ายกับธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ และใช้ระบบตะกร้าเงินเทียบเคียงกับดอลลาร์อินเด็กซ์ โดยมีการสำรองเงินจริงของสกุลใหญ่ในโลกมาค้ำค่าเงิน Libra เอาไว้  คือจะบอกว่า ฉันไม่ใช่เงินกระดาษนะมีของจริงรองรับ ทำให้ราคาไม่มีความผันผวนเช่นเหรียญดิจิทัลตัวอื่น

พันธมิตรที่เข้าร่วมตอนนี้มีทั้งหมด 27 รายแต่ทาง Libra Association ก็บอกว่าจะหาเพิ่มให้เป็น 100 ในปี 2020 ถึงจะมีแค่ 27 ราย แต่ชื่อของแต่ละเจ้านั้นก็ใหญ่พอจะสร้างความเชื่อมั่นได้เช่น VISA, Master Card, eBay, Spotify, Uber, PayPal เป็นต้น ถ้าใครต้องการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรนี้ก็ง่ายมาก เพียงแค่นำเงินไปลงทุน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ก็มีสิทธิ์จะเข้าร่วมเป็น Node หนึ่งใน Block chain และจะได้รับค่าธรรมเนียมเวลามีธุรกรรมการเงิน ผ่าน Node ของเราคล้ายธนาคาร

เฟซบุ๊กพยายามจะทำให้การใช้งานง่ายที่สุดเพียงแค่โหลดแอปพลิเคชันที่เรียกว่า Calibra มาติดตั้งในโทรศัพท์ทั้งAndroid และ iPhone หรือ เพิ่มกระเป๋าเงินดิจิทัลเพียงแค่คลิกไปที่รูปโลโก้ของ Calibra ที่เป็นรูปคลื่น ใน Face book Messengers หรือ WhatsApp ยืนยันตัวตน เสร็จก็ใช้งานได้

ช่วงแรกเฟซบุ๊กวางแผนที่จะเสนอเงื่อนไขให้ร้านค้าที่รับชำระเงินด้วยการมอบ cash back ให้ สำหรับผู้ใช้งานเมื่อสมัครใช้งานก็อาจจะได้เงินก้นถุงเป็นของขวัญหรือจะมีโปรแกรมชวนเพื่อนแล้วได้รางวัลทั้งคู่ก็เป็นได้ ประโยชน์ของการใช้เงิน Libra คือสกุลเงินนี้ใช้ได้ทั่วโลก โดยจะมีค่าธรรมเนียมต่ำมากเมื่อเทียบกับการโอนเงินแบบธรรมดา ซึ่งถ้าเปิดการใช้งานจริงน่าจะทำให้การค้าขายทางอินเทอร์เน็ตคึกคักขึ้น นักวิเคราะห์ชี้ว่าโอกาสประสบความสำเร็จของ Libra มีสูงมากเพราะมีคนอีก 1.7 พันล้านคนที่ยังไม่มีบัญชีธนาคารหรืออาศัยอยู่ในประเทศที่ค่าเงินผันผวน

ปัญหาและอุปสรรคที่สำคัญก็คือนานาประเทศจะยอมให้มีเงินสกุลอื่นมาใช้ในประเทศของตนอย่างถูกกฎหมายหรือเปล่า ล่าสุดสภาคองเกรสของอเมริกาก็ทำเรื่องเรียกเฟซบุ๊กเข้าไปคุยเพื่อถามรายละเอียดแล้วว่าระบบนี้จะเป็นปัญหากับประเทศสหรัฐอเมริกาหรือไม่