เมื่อสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและสาธารณะรัฐประชาชนจีนเริ่มต้นขึ้น นักวิเคราะห์ข่าวระหว่างประเทศออกมาเตือนว่า จะทำให้เกิดสงครามเทคโนโลยี และผลของมันคือการแบ่งขั้วเทคโนโลยีออกเป็นสองค่าย ได้แก่ฝ่ายหนุนสหรัฐและฝ่ายหนุนจีน ขอบเขตที่เราจะมาวิเคราะห์กันในบทความนี้คือ เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับโทรศัพท์มือถือ ซึ่งก็คือ ระบบปฏิบัติการ (operating system)

Google ยอมรับว่าสงครามการค้ากับ Huawei จะเป็นผลเสียต่อ Google เองในระยะยาว

บริษัท Google ได้ส่งสัญญาณเตือนรัฐบาลสหรัฐว่าการห้ามไม่ให้บริษัทค้าขายกับบริษัท Huawei จะเป็นผลเสียต่อ Google เองในระยะยาว ขณะที่บริษัทยักษ์ใหญ่ของอเมริกามีท่าทีกังวล บริษัทของจีนอย่าง หัวเว่ย (จริง ๆ ต้องอ่านว่าฮั๋วเหวย) กลับออกมาประกาศว่าได้มีการเตรียมพร้อมสร้างระบบปฏิบัติการ (operating system) หรือ โอเอส (OS) ของตัวเองไว้เผื่อเหตุการณ์แบบนี้ไว้เรียบร้อยแล้ว โดยตั้งชื่อว่า .鸿蒙(หงเหมิง) HongMeng เป็นคำที่หมายถึงการรวมตัวของอากาศและวัตถุธาตุก่อนกำเนิดโลก นอกจากนี้ Huawei ได้ลงทุน สร้างศูนย์วิจัยและพัฒนา นวัตกรรมด้านไอซีทีขึ้นในเมืองตงกวน มณฑลกวางตุ้ง ใช้เงินลงทุนกว่าแสนล้านหยวน ประมาณห้าแสนล้านบาทไทย มีนักวิจัย 25,000 คน ขณะนี้พร้อมที่จะทำงานแล้ว

บริษัทเอกชนจีนคือรัฐวิสาหกิจของจีน

บริษัทเอกชนของจีนอย่าง Huawei นั้น ประเทศสหรัฐอเมริการะบุว่ามีรัฐบาลจีนเป็นเจ้าของ และกำลังเป็นภัยต่อความมั่นคงของอเมริกา เมื่อดูจากความพร้อมของ Huawei และการโต้ตอบของจีน ก็ยิ่งทำให้มุมมองนี้หนักแน่นขึ้นว่า ประเทศสังคมนิยมแบบจีนนั้น บริษัทเอกชนจีนคือรัฐวิสาหกิจของจีน นักธุรกิจจีนมองว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอนไม่วันใดก็วันหนึ่ง และเป็นการดีที่มันมาเกิดในยุคที่ ประธานาธิบดีทรัมป์บริหารงาน เพราะผู้คนทั่วโลกต่างก็ไม่ค่อยชอบการบริหารงานของทรัมป์อยู่แล้ว ลองคิดดูนะว่าถ้าสงครามการค้าเกิดขึ้นในยุคของ บารัก โอบามา จีนจะลำบากในการชี้แจงต่อชาวโลกมากกว่านี้สักแค่ไหน นักธุรกิจจีนคนหนึ่ง ถามขึ้น

HongMeng OS พร้อมแล้วสำหรับตลาดมือถือภายนอกจีนจริงหรือ?

Huawei จดเครื่องหมายการค้า HongMeng OS ไว้หลายประเทศ ทั้ง แคนาดา ยุโรป เกาหลีใต้ แมกซิโก และให้ข่าวว่า ได้ส่งมอบอุปกรณ์ที่รันบนระบบปฏิบัติการนี้ไป 1 ล้านเครื่องแล้ว โดยอ้างว่า สามารถใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน Android ได้ แถมยังมีประสิทธิภาพและเพิ่มความแข็งแกร่ง ให้กับระบบป้องกันข้อมูลส่วนตัวขึ้นอีกด้วย ส่วนแอปพลิเคชันที่มาแทน Google Play Store คือ AppGallery ซึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่ของจีน เริ่มเชิญชวนนักพัฒนาโปรแกรม นำแอปพลิเคชันมาลง โดยบอกว่าเวลานี้มีผู้ใช้งาน 270 ล้านบัญชีต่อเดือน

นักวิเคราะห์มองว่าถึงแม้ภายในประเทศจีนจะเริ่มใช้ HongMeng OS แต่ นอกประเทศจีนแล้ว แอปพลิเคชัน อย่าง GoogleMap จีนไม่น่าจะสามารถพัฒนาได้ในเวลาสั้น ๆ ทำให้ Huawei ต้องใช้เวลาและความพยายามต่อไป แต่จะมองข้ามความสามารถด้านการทำราคา และลูกเล่นการตลาดอื่นจากจีนไม่ได้ ดังนั้น สงครามเทคโนโลยีครั้งนี้จึงต้องติดตามกันยาวนานกว่าที่คิด

ความกังวลของบริษัท Google เริ่มส่อเค้าลางว่าจะเป็นจริง เมื่ออยู่ ๆ ก็มี โอเอส (OS)คู่แข่งAndroid อย่าง HongMeng OS เกิดขึ้นแถมยังมีแนวโน้มที่ต้องสูญเสียรายได้จากค่าใช้งานระบบ Android สำหรับตลาดมือถือในจีนซึ่งมีขนาดประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ ของมือถือทั่วโลกไปอีกด้วย